12 September 2025
น้ำหนักบรรทุกของรถบรรทุกในประเทศไทยขึ้นอยู่กับประเภทของรถและจำนวนเพลาของรถ โดยรถบรรทุก 4 ล้อ เช่น รถกระบะหรือรถบรรทุกเล็ก มี 2 เพลา (หน้า-หลัง) น้ำหนักรถรวมสูงสุดประมาณ 9,500 กิโลกรัม และสามารถบรรทุกได้ประมาณ 2,000–3,000 กิโลกรัม ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลาง มี 2 เพลา (หน้า-หลัง) น้ำหนักรวมสูงสุดประมาณ 15,000 กิโลกรัม และบรรทุกได้ราว 5,000–7,000 กิโลกรัม สำหรับรถบรรทุก 10 ล้อขนาดใหญ่ มี 3 เพลา (หน้า 1 หลัง 2) น้ำหนักรวมสูงสุดประมาณ 25,000 กิโลกรัม และสามารถบรรทุกได้ประมาณ 15,000 กิโลกรัม รถพ่วง 18 ล้อ ที่มี 5 เพลา (หัว 3 เพลาและพ่วง 2 เพลา) น้ำหนักรวมสูงสุดประมาณ 50,000 กิโลกรัม สามารถบรรทุกได้ประมาณ 30,000–35,000 กิโลกรัม ส่วนรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ มี 6 เพลา (หัว 3 เพลาและพ่วง 3 เพลา) น้ำหนักรวมสูงสุดประมาณ 60,000 กิโลกรัม และบรรทุกได้ประมาณ 35,000–40,000 กิโลกรัม ในขณะที่รถเทรลเลอร์ 3 เพลา สำหรับลากตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุตหรือ 40 ฟุต น้ำหนักรวมสูงสุดจะอยู่ระหว่าง 50,000–60,000 กิโลกรัม และสามารถบรรทุกได้ประมาณ 30,000–35,000 กิโลกรัม ทั้งนี้น้ำหนักบรรทุกจริงขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฎหมายและข้อจำกัดทางเทคนิคของรถแต่ละประเภท.
น้ำหนักบรรทุกจริงของรถบรรทุกนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ปัจจัยแรกคือ ประเภทตัวรถและช่วงล้อ ซึ่งจะกำหนดได้ว่ารถสามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยเพียงใด ปัจจัยที่สองคือ ใบอนุญาตและกฎหมายของกรมทางหลวง ที่กำหนดข้อจำกัดในการใช้ถนนและน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ปัจจัยที่สามคือ น้ำหนักบรรทุกที่ผู้ผลิตรถกำหนด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการใช้งาน นอกจากนี้บางเส้นทางยังมี ข้อจำกัดน้ำหนักต่อเพลา เช่น ไม่เกิน 10 ตันต่อเพลา เพื่อป้องกันความเสียหายของถนน และโดยทั่วไป รถบรรทุกสามารถบรรทุกน้ำหนักรวมกับตัวรถได้ไม่เกินประมาณ 50–60 ตัน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและความปลอดภัยในการขนส่ง.
✓ เช่าตามพื้นที่ใช้จริง
✓ มีพนักงานคลัง
✓ มีรถยกพาเลท
✓ มีรถขนส่ง
✓ ระบบรักษาความปลอดภัย
ติดต่อเราทาง socail media
tongsuen warehouse and logistics